ไวรัส เวิร์ม คือ โปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่กระจายตัวเอง เช่นเดี่ยวกับไวรัส
- โดยการแพร่กระจาย จากคอมพิวเตอร์ สู่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ
- โดยผ่านอีเมล์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์อ่าน เวิร์มจะเริ่มทำงาน
- โดยการคัดลอกตัวเองและส่งผลจากจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังเครื่องของคนอื่น ๆ ที่มีรายชื่ออยู่ใน E-mail เช่น “Nimda, “W32.Sobig”, W32.bugbeor” “W32.blaster” and “love bug” ซึ่งเป็นไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์ที่กำหนดหัวเรื่องว่า “Love You”
ม้าโทรจัน (Trojan torse) เป็นโปรแกรมรวมแต่แตกต่าง จากไวรัสและเวิร์มที่ม้าโทรจัน จะไม่กระจายตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่น ๆ แต่ ม้าโทรจันจะแฝงอยู่กับโปรแกรมอื่น ๆ ที่อาจส่งผ่านมาทาง
อีเมล์ เช่น Ziped_filessexe. เมื่อมีการเรียกใช้ไฟล์ โปรแกรมก็จะลบไฟล์ที่อยู่ในฮาร์ดิสก์
- โดยการแพร่กระจาย จากคอมพิวเตอร์ สู่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ
- โดยผ่านอีเมล์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์อ่าน เวิร์มจะเริ่มทำงาน
- โดยการคัดลอกตัวเองและส่งผลจากจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังเครื่องของคนอื่น ๆ ที่มีรายชื่ออยู่ใน E-mail เช่น “Nimda, “W32.Sobig”, W32.bugbeor” “W32.blaster” and “love bug” ซึ่งเป็นไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์ที่กำหนดหัวเรื่องว่า “Love You”
ม้าโทรจัน (Trojan torse) เป็นโปรแกรมรวมแต่แตกต่าง จากไวรัสและเวิร์มที่ม้าโทรจัน จะไม่กระจายตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่น ๆ แต่ ม้าโทรจันจะแฝงอยู่กับโปรแกรมอื่น ๆ ที่อาจส่งผ่านมาทาง
อีเมล์ เช่น Ziped_filessexe. เมื่อมีการเรียกใช้ไฟล์ โปรแกรมก็จะลบไฟล์ที่อยู่ในฮาร์ดิสก์
2. Spyware คืออะไร
คืือ ไวรัสที่เป็นไฟล์ภาพกราฟิก มีขนาดเล็กและซ่อนตัวอยู่ที่เว็บเพจที่รวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการท่องโลกอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้แล้วส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และวิธีการติดตั้ง
ของเครื่อง คอมพิวเตอร์ คือ การติดตั้งจากแผ่น Driver หรือการดาว์นโหลดจากอินเทอร์เน็ตมา เช่น โปรแกรมAd-aware ,Spycop เป็นต้น
ของเครื่อง คอมพิวเตอร์ คือ การติดตั้งจากแผ่น Driver หรือการดาว์นโหลดจากอินเทอร์เน็ตมา เช่น โปรแกรมAd-aware ,Spycop เป็นต้น
3. ท่านมีวิธีการหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าหมายของสแปมเมล์อย่างไรบ้าง
3.1 เป็นการบล็อกสแปมเมล์ก่อนที่เมล์เหล่านั้นจะถูกส่งไปยังกล่องจดหมาย
3.2 การติดตั้งโปรแกรม แอนตี้สแปม (Aati-Spam Program) ที่ช่วยกรองและกำจัดสแปมเมล์ก่อนที่เมล์เหล่านั้นจะถูกส่งไปยังกล่องเมล์
1. อย่าซี้ซั้วแจกอีเมล์มั่ว
ไม่ควรกรอกอีเมล์แอดเดรสลงในเว็บไซต์หรือแจกอีเมล์ให้กับคนที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าเราต้องการสมัครใช้บริการออนไลน์ในเว็บไซต์ เช่น อ่านแมกกาซีนออนไลน์ฟรี หรือเวบบอร์ดต่างๆที่ให้กรอกอีเมล์เพื่อสมัครสมาชิก เราก็ควรที่จะมีอีเมล์สำรองไว้ใช้งานค่ะ เพื่อใช้กรอกในการสมัครเวบพวกนี้แทน ไม่ควรที่จะใช้อีเมล์ส่วนตัวค่ะ ยิ่งถ้าใครที่ใช้อีเมล์แบบที่ต้องเสียค่าบริการด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะใช้อีเมล์นั้นในการสมัครเวบพวกนี้อย่างยิ่งค่ะ
ไม่ควรกรอกอีเมล์แอดเดรสลงในเว็บไซต์หรือแจกอีเมล์ให้กับคนที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าเราต้องการสมัครใช้บริการออนไลน์ในเว็บไซต์ เช่น อ่านแมกกาซีนออนไลน์ฟรี หรือเวบบอร์ดต่างๆที่ให้กรอกอีเมล์เพื่อสมัครสมาชิก เราก็ควรที่จะมีอีเมล์สำรองไว้ใช้งานค่ะ เพื่อใช้กรอกในการสมัครเวบพวกนี้แทน ไม่ควรที่จะใช้อีเมล์ส่วนตัวค่ะ ยิ่งถ้าใครที่ใช้อีเมล์แบบที่ต้องเสียค่าบริการด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะใช้อีเมล์นั้นในการสมัครเวบพวกนี้อย่างยิ่งค่ะ
2.อย่าตอบเมล์สแปม
อย่าเปิดดูข้อความในสแปมเมล์หรือตอบกลับโดยเด็ดขาด เพราะถ้าทำเช่นนั้นจะเท่ากับว่าเราได้ทำการยืนยันกลับไปยังผู้ส่งสแปมว่าอี เมล์แอดเดรสนี้มีอยู่จริง ซึ่งผลลัพธ์ก็คือสแปมเมล์จะถูกส่งมาเรื่อยๆ และเพิ่มมากขึ้น ในกรณีทีสงสัยว่าอีเมล์ฉบับนั้นเป็นสแปมให้ทำการลบทิ้งทันที วิธีสังเกตสแปมเมล์ง่ายๆ ก็คือมักจะใช้หัวข้อที่เรียกร้องความสนใจในทำนองเช่น “You have won the lottery” หรือ “Free prize waiting for you” หรือ “Re: Hello” อย่าหลงเปิดดูเป็นอันขาด นอกจากนี้ให้สังเกตดูอีเมล์แอดเดรสของผู้ส่งด้วย หากไม่รู้จักชื่อหรือมาจากโดเมนแปลกๆ (ชื่อโดเมนคือชื่อที่อยู่หลังสัญลักษณ์ @ ในอีเมล์แอดเดรส) ให้ฟันธงได้เลยว่าเป็นสแปมและทำการลบทิ้งทันที
อย่าเปิดดูข้อความในสแปมเมล์หรือตอบกลับโดยเด็ดขาด เพราะถ้าทำเช่นนั้นจะเท่ากับว่าเราได้ทำการยืนยันกลับไปยังผู้ส่งสแปมว่าอี เมล์แอดเดรสนี้มีอยู่จริง ซึ่งผลลัพธ์ก็คือสแปมเมล์จะถูกส่งมาเรื่อยๆ และเพิ่มมากขึ้น ในกรณีทีสงสัยว่าอีเมล์ฉบับนั้นเป็นสแปมให้ทำการลบทิ้งทันที วิธีสังเกตสแปมเมล์ง่ายๆ ก็คือมักจะใช้หัวข้อที่เรียกร้องความสนใจในทำนองเช่น “You have won the lottery” หรือ “Free prize waiting for you” หรือ “Re: Hello” อย่าหลงเปิดดูเป็นอันขาด นอกจากนี้ให้สังเกตดูอีเมล์แอดเดรสของผู้ส่งด้วย หากไม่รู้จักชื่อหรือมาจากโดเมนแปลกๆ (ชื่อโดเมนคือชื่อที่อยู่หลังสัญลักษณ์ @ ในอีเมล์แอดเดรส) ให้ฟันธงได้เลยว่าเป็นสแปมและทำการลบทิ้งทันที
3. ไม่ส่งต่อจดหมายลูกโซ่
อีเมล์เรื่องโจ๊กที่ถูกส่งต่อๆ มาจากเพื่อนๆ และมีข้อความตอนท้ายในทำนองที่ว่า “ส่งต่ออีเมล์นี้ให้กับผู้รับอีก 10 คนแล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง” อย่างนี้ไม่ต้องส่งต่อเลยค่ะ เพราะถ้าเรา้ลองสังเกตอีเมล์เหล่านี้ดูแล้ว จะพบว่ามีอีเมล์แอดเดรสมากมายรวมกันอยู่ในส่วนต้นของอีเมล์ ซึ่งบางทีหนึ่งในนั้นอาจจะแอดเดรสของนักการตลาดหรือแฮกเกอร์ก็ได้ค่ะ่ ดังนั้นแนะนำให้กลั้นใจคลิกปุ่ม Delete แทนที่จะคลิกปุ่ม Forward แทนดีกว่าค่ะ
อีเมล์เรื่องโจ๊กที่ถูกส่งต่อๆ มาจากเพื่อนๆ และมีข้อความตอนท้ายในทำนองที่ว่า “ส่งต่ออีเมล์นี้ให้กับผู้รับอีก 10 คนแล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง” อย่างนี้ไม่ต้องส่งต่อเลยค่ะ เพราะถ้าเรา้ลองสังเกตอีเมล์เหล่านี้ดูแล้ว จะพบว่ามีอีเมล์แอดเดรสมากมายรวมกันอยู่ในส่วนต้นของอีเมล์ ซึ่งบางทีหนึ่งในนั้นอาจจะแอดเดรสของนักการตลาดหรือแฮกเกอร์ก็ได้ค่ะ่ ดังนั้นแนะนำให้กลั้นใจคลิกปุ่ม Delete แทนที่จะคลิกปุ่ม Forward แทนดีกว่าค่ะ
4. สอบถาม ISP
สำหรับใครที่ใช้อีเมล์์ของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ต่างๆ แนะนำให้สอบถามถึงมาตรการการป้องกันสแปมเมล์ด้วยว่ามีหรือไม่และสามารถป้องกันได้ดีแค่ไหน ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายรายจะมี “Gateway Server” แยกต่างหากและมีโปรแกรมคอยสแกนอีเมล์ทั้งเข้าและออก หากอีเมล์ใดถูกสงสัยว่าเป็นสแปมจะถูกส่งต่อไปตรวจสอบหรือถูกลบทิ้งทันที เพียงเท่านี้มันก็ไม่สามารถเข้ามายังเมล์บ๊อกซ์ของเราได้แล้วค่ะ
สำหรับใครที่ใช้อีเมล์์ของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ต่างๆ แนะนำให้สอบถามถึงมาตรการการป้องกันสแปมเมล์ด้วยว่ามีหรือไม่และสามารถป้องกันได้ดีแค่ไหน ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายรายจะมี “Gateway Server” แยกต่างหากและมีโปรแกรมคอยสแกนอีเมล์ทั้งเข้าและออก หากอีเมล์ใดถูกสงสัยว่าเป็นสแปมจะถูกส่งต่อไปตรวจสอบหรือถูกลบทิ้งทันที เพียงเท่านี้มันก็ไม่สามารถเข้ามายังเมล์บ๊อกซ์ของเราได้แล้วค่ะ
5. บล็อกผู้ส่ง
ในโปรแกรม Outlook Express จะมีออปชัน Block Sender ให้เราได้ใช้งาน ให้คลิกเลือกที่อีเมล์ที่ต้องการบล็อกไม่ให้เข้ามายังเมล์บ๊อกซ์ของเราอีก แล้วคลิกเลือกเมนู Message -> Block sender จากนั้นอีเมล์แอดเดรสดังกล่าวจะถูกเพิ่มเข้าไปในรายการบล็อก ซึ่งในครั้งต่อไปหากมีอีเมล์ที่มาจากแอดเดรสที่ตรงกับในรายการบล็อก อีเมล์ฉบับนั้นๆ จะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Deleted Messages โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบดูรายชื่อในรายการบล็อกของ Outlook Express ได้โดยคลิกที่เมนู Tools -> Message Rules -> Blocked Sender List
ในโปรแกรม Outlook Express จะมีออปชัน Block Sender ให้เราได้ใช้งาน ให้คลิกเลือกที่อีเมล์ที่ต้องการบล็อกไม่ให้เข้ามายังเมล์บ๊อกซ์ของเราอีก แล้วคลิกเลือกเมนู Message -> Block sender จากนั้นอีเมล์แอดเดรสดังกล่าวจะถูกเพิ่มเข้าไปในรายการบล็อก ซึ่งในครั้งต่อไปหากมีอีเมล์ที่มาจากแอดเดรสที่ตรงกับในรายการบล็อก อีเมล์ฉบับนั้นๆ จะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Deleted Messages โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบดูรายชื่อในรายการบล็อกของ Outlook Express ได้โดยคลิกที่เมนู Tools -> Message Rules -> Blocked Sender List
6. กรองเมล์ขยะ
ในโปรแกรม Outlook 2003 นั้นจะมีออปชันการทำงานมากมายเกี่ยวกับการจัดการอีเมล์ชยะ โดยฟิลเตอร์กรองเมล์ขยะจะทำการย้ายข้อความที่สงสัยว่าจะเป็นเมล์ขยะไปยังโฟลเดอร์เฉพาะหรือลบมันทิ้งไป นอกจากนเรายังสามารถสร้าง (แบล็ก) ลิสต์ของแอดเดรสที่ชัดเจนว่าเป็นสแปมหรือขยะได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างลิสต์ของแอดเดรสที่คุณรู้จักซึ่งโปรแกรมจะไม่สงสัยว่าเป็นขยะโดยเด็ดขาด เช่น อีเมล์ของเพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ โดยเราสามารถเข้าถึงออปชันจัดการเมล์ขยะได้จากเมนู Actions -> Junk E-Mail -> Junk E-Mail Option
ในโปรแกรม Outlook 2003 นั้นจะมีออปชันการทำงานมากมายเกี่ยวกับการจัดการอีเมล์ชยะ โดยฟิลเตอร์กรองเมล์ขยะจะทำการย้ายข้อความที่สงสัยว่าจะเป็นเมล์ขยะไปยังโฟลเดอร์เฉพาะหรือลบมันทิ้งไป นอกจากนเรายังสามารถสร้าง (แบล็ก) ลิสต์ของแอดเดรสที่ชัดเจนว่าเป็นสแปมหรือขยะได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างลิสต์ของแอดเดรสที่คุณรู้จักซึ่งโปรแกรมจะไม่สงสัยว่าเป็นขยะโดยเด็ดขาด เช่น อีเมล์ของเพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ โดยเราสามารถเข้าถึงออปชันจัดการเมล์ขยะได้จากเมนู Actions -> Junk E-Mail -> Junk E-Mail Option
7. กำหนดกฏเกณฑ์
โดยปกติโปรแกรมจัดการอีเมล์ส่วนใหญ่ (เช่น Outlook Express) จะมีฟังก์ชันกรองข้อความ (Message Filters หรือ Message Rules) ซึ่งเราสามารถกำหนดกฏเกณฑ์ในการรับข้อความโดยให้ย้ายไปยังโฟลเดอร์อื่นๆ หรือทำการลบทิ้งโดยอัตโนมัติได้ ในบางครั้งหากเราต้องการเก็บเมล์ขยะบางประเภทเอาไว้ (เช่น ข้อเสนอเรื่องการศึกษาและเรียนต่อ) ก็สามารถกำหนดกฏเกณฑ์ให้โปรแกรมทำการย้ายเมล์ที่มีข้อความเกี่ยวกับการศึกษา (เช่น Educational, Study abroad) หรือแอดเดรสที่เกี่ยวข้องไปยังโฟลเดอร์แยกต่างหากได้ ซึ่งเราสามารถเข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าวได้โดยการคลิกที่เมนู Message -> Create Rule for Message
โดยปกติโปรแกรมจัดการอีเมล์ส่วนใหญ่ (เช่น Outlook Express) จะมีฟังก์ชันกรองข้อความ (Message Filters หรือ Message Rules) ซึ่งเราสามารถกำหนดกฏเกณฑ์ในการรับข้อความโดยให้ย้ายไปยังโฟลเดอร์อื่นๆ หรือทำการลบทิ้งโดยอัตโนมัติได้ ในบางครั้งหากเราต้องการเก็บเมล์ขยะบางประเภทเอาไว้ (เช่น ข้อเสนอเรื่องการศึกษาและเรียนต่อ) ก็สามารถกำหนดกฏเกณฑ์ให้โปรแกรมทำการย้ายเมล์ที่มีข้อความเกี่ยวกับการศึกษา (เช่น Educational, Study abroad) หรือแอดเดรสที่เกี่ยวข้องไปยังโฟลเดอร์แยกต่างหากได้ ซึ่งเราสามารถเข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าวได้โดยการคลิกที่เมนู Message -> Create Rule for Message
8. ใช้ Safe & Blocked ให้เป็นประโยชน์
บริการฟรีอีเมล์เช่น Hotmail, Yahoo, Google ฯลฯ ปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีระบบป้องกันสแปมให้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น Safe List และ Blocked List ซึ่งเราสามารถเพิ่มเติมหรือลบรายชื่ออีเมล์แอดเดรสออกจากลิสต์ทั้งสองได้ อย่างอิสระ ในกรณีของ Blocked List ข้อความจะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Junk หรือ Bulk (ซึ่งจะถูกลบทิ้งโดยอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนด) นอกจากนี้ผู้ให้บริการฟรีอีเมล์ก็จะมี Master List ของบรรดาสแปมเมอร์เก็บไว้เช่นกัน หากมีอีเมล์ไหนตรงกับลิสต์ก็จะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Junk หรือ Bulk โดยอัตโนมัติทันที
บริการฟรีอีเมล์เช่น Hotmail, Yahoo, Google ฯลฯ ปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีระบบป้องกันสแปมให้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น Safe List และ Blocked List ซึ่งเราสามารถเพิ่มเติมหรือลบรายชื่ออีเมล์แอดเดรสออกจากลิสต์ทั้งสองได้ อย่างอิสระ ในกรณีของ Blocked List ข้อความจะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Junk หรือ Bulk (ซึ่งจะถูกลบทิ้งโดยอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนด) นอกจากนี้ผู้ให้บริการฟรีอีเมล์ก็จะมี Master List ของบรรดาสแปมเมอร์เก็บไว้เช่นกัน หากมีอีเมล์ไหนตรงกับลิสต์ก็จะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ Junk หรือ Bulk โดยอัตโนมัติทันที
9. ใช้พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์
ในกรณีที่ของสำนักงานเล็กๆที่ใช้อีเมล์เพื่อการติดต่อด้านธุรกิจ แนะนำให้ตั้งพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาโดยให้ติดตั้งซอฟต์แวร์ Anti-Spam และ Firewall เอาไว้
ในกรณีที่ของสำนักงานเล็กๆที่ใช้อีเมล์เพื่อการติดต่อด้านธุรกิจ แนะนำให้ตั้งพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาโดยให้ติดตั้งซอฟต์แวร์ Anti-Spam และ Firewall เอาไว้
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งซอฟต์แวร์สำหรับพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ (เช่น WinGate และ WinProxy) นั้นจะมีฟีเจอร์ป้องกันสแปมเมล์อยู่ในตัว ที่สามารถเปรียบเทียบแอดเดรสที่อยู่ในลิสต์รายการ .”Safe” และ “Black” ได้ โดยอี-เมล์ที่ถูกแบล็กลิสต์จะถูกลบออกจากพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ และหมดโอกาสเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายของเราค่ะ
(ข้อมูลเพิ่มเติม : www.wingate.com และ www.winproxy.com)
10. ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันสแปม
ปัจจุบันนี้มีซอฟต์แวร์อื่นๆที่ออกแบบมาเพื่ื่อมาต่อกรกับสแปมเมล์ และสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมจัดการอีเมล์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำ (เช่น Outlook Express) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมและจัดการสแปมเมล์ที่สูงกว่าโดยจะทำการตรวจสอบอี-เมล์ ทั้งที่ผ่านเข้ามาและถูกส่งออกไป ยกตัวอย่างโปรแกรมเช่น PixByte, AntiSpam Professional, Spam Inspector, Spam Monitor.
ปัจจุบันนี้มีซอฟต์แวร์อื่นๆที่ออกแบบมาเพื่ื่อมาต่อกรกับสแปมเมล์ และสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมจัดการอีเมล์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำ (เช่น Outlook Express) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมและจัดการสแปมเมล์ที่สูงกว่าโดยจะทำการตรวจสอบอี-เมล์ ทั้งที่ผ่านเข้ามาและถูกส่งออกไป ยกตัวอย่างโปรแกรมเช่น PixByte, AntiSpam Professional, Spam Inspector, Spam Monitor.
4. ท่านคิดว่าการทำสำเนาแผ่น CD เพลงเป็นการทำผิดจริยกรรมหรือไม่เพราะเหตุใด และการดาว์นโหลดเพลงจากอินเตอร์เน็ตข้อเช่นเดียวกัน ท่านมีความเห็นอย่างไร
การทำสำเนาแผ่นซีดีเพลงเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เพราะซีดีเพลงที่ได้มานั้น ไม่ได้มาโดยง่ายเลยและยังเป็นลิขสิทธิ์ของค่ายเพลงนั้นๆด้วย และการดาวน์โหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ต ถือว่าผิดจริยธรรมเหมือนกัน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาสูง ดังนั้นการดาว์นโหลดเพลง
จากอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเรื่องปกติ
จากอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเรื่องปกติ